วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เรื่องพรายทะเล

 เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๕๑๒ ในตอนนั้้นผมได้ไปเล่นดนตรีอยู่ที่"นิวแลนด์"ก่อนถึงจังหวัดระยองวงดนตรีของผมเล่นกันอยู่เพียง ๓ คน ๑.ผมเล่น Lead Guitar ๒.แอ๊ดเล่น Bass ๓.อ๋อยเล่น Drum {ซึ่งสมัยนั้น
ได้รับอิทธิพลจากวง Jimi Hendrix  และวง Cream } ในยุคนั้นเป็นยุคที่เฟื่องฟูของเหล่าทหารอเมริกัน
ที่เข้ามาตั้งฐานทัพอยู่ที่อู่ตะเภา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

  Bar ที่ผมเล่นดนตรีอยู่ชื่อว่า"Simease Cat"ในคืนหนึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการแสดง อ๋อยได้ชวนผมไปเที่ยวที่ทะเลสัตหีบ เมื่อเราไปถึงที่นั่น เราก็เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน  เวลาผ่านไปในราวๆ ตี ๓ เศษ
ในขณะที่อ๋อยกำลังเล่นน้ำอยู่ ปรากฎว่ามีลูกคลื่นเล็กๆวิ่งเข้ามาหาอ๋อยอย่างรวดเร็ว อ๋อยได้ตะโกนออกไปว่า"เฮ้ย!...อะไรกันวะนี่" ทันใดนั้นลูกคลื่นดังกล่าวก็พุ่งเข้าชนอ๋อยอย่างจังจนล้มลง ผมรีบวิ่งเข้าไป
ประคองอ๋อยให้ลุกขึ้น และล้วงหยิบไฟฉายส่องไปที่เท้าขวาของอ๋อย ปรากฎรอยผื่นแดงยาวราว๔นิ้ว
ผมรู้สึกใจคอไม่ดี นึกถึงคำโบราณที่บอกไว้ว่าห้ามทักสิ่งใดในยามวิกาล จึงรีบพาอ๋อยกลับนิวแลนด์
ในวินาทีนั้นทันที

 ตกรุ่งเช้าขึ้นมาผมไปดูแผลอ๋อยที่เท้า ปรากฎว่าอักเสบและบวมขึ้นอย่างมาก ผมเห็นท่าไม่ค่อยจะดี
จึงชวนแอ๊ด{พี่ชายอ๋อย}ให้พาอ๋อยไปหาพระ เพราะกลัวจะเป็นของที่เป็นคุณไสยปล่อยมาทำร้ายผู้คน
เมื่อไปถึงวัด พระท่านดูอาการเสร็จท่านก็กล่าวว่า"โยมโดนพรายทะเลมันทำร้ายเอานะ"พอพูดจบ ท่าน
ก็บริกรรมคาถาไปที่เท้าอ๋อย พร้อมกับพรมน้ำมนต์ในขันให้ด้วย...

 หลังจากนั้น ๒วัน ก็เกิดแผลขึ้นที่รอบคออ๋อย ซึ่งสมัยนั้นเขาเรียกกันว่า"งูสวัสดิ์" ในคืนนั้นอ๋อยเริ่มเพ้อ
และกระหายน้ำ ผมต้องคอยตื่นมาเอายาแก้อักเสบให้อ๋อยกินทุก ๔ ช.ม.  แผลที่เท้าและคอก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะหาย กลับลุกลามขยายจนเป็นวงกว้าง ดูน่าสยดสยองนัก...พอดีมีเด็กในบาร์เข้ามาดูอาการ
แล้วบอกว่า"พี่ผมว่าไปหาอาจารย์ผมดีกว่า อาการแบบนี้เหมือนโดนคุณไสย" ผมรีบบอกให้พาไปหา
พ่อหมอโดยด่วน {พ่อหมอเป็นคนจีนเป็นจอมขมังเวทย์ในแถบนั้น}

 บ้านอาจารย์อยู่เตาถ่าน แกเป็นชายกลางคนร่างเล็กผอมบาง พอไปถึงเมื่อแกตรวจสอบอาการเสร็จสรรพ แกก็หลับดาบ่นพึมพำในคออยู่ครู่ใหญ่ แกก็หยิบรากไม้สมุนไพร ส่งให้พร้อมกับน้ำมนต์แล้วพูดว่า
"เอาสมุนไพรนี่ไปตำไว้ทาที่แผล ส่วนน้ำมนต์นี่เอาไปให้กิน เดี๋ยวกูจะให้ไอ้ลอยไปเฝ้าใข้ซัก ๓วัน ก็คงจะหาย เอ็งโดนไอ้พรายทะเลมันกระทำเอา น้ำมนต์ของพระแก้ไม่ได้หรอก" ตกลงวันนั้นเสียค่าครู
หกสลึง ไก่ต้ม ๑ ตัวๆละ๕ บาท {สมัยนั้น}

 บาร์ที่ผมอยู่ด้านหลังเป็นห้องพักมีอยู่ประมาณ ๒๐ กว่าห้องเป็นรูปตัว U ในคืนนั้นช่วงเวลาตี ๔เศษๆ
มีเสียงเหมือนกับคนวิ่งบนหลังคาซึ่งเป็นสังกะสี รวดเร็วและเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ผู้คนทุกห้องต่างคว้า
ปืนผา หน้าไม้ออกมาดูข้างนอกอย่างตกใจกันทุกคน{รวมทั้งผมด้วย} แต่เมื่อมองดูบนหลังคากลับไร้
ร่องรอยใดๆให้เห็น...ไม่พบเห็นผู้ใดเลย ผมจึงฉุกคิดขึ้นมาว่าชรอยคงเป็นไอ้ลอย ผีตายโหงที่พ่อหมอ
ใช้มาดูแลใข้อ๋อยละกระมัง? หลังจากนั้น ๒วันแผลต่างๆในตัวอ๋อยก็หายสนิท ไร้ร่องรอยใดๆ ปรากฎ
ให้เห็นอีกเลย...ต่อมาสืบได้ความว่าไอ้ลอยเป็นนักเลงโตอยู่แถวเตาถ่านโดนตำรวจยิงตาย แล้วพ่อหมอ
เรียกวิญญาณไอ้ลอยมาเลี้ยงไว้ เพราะไอ้ลอยก็ขึ้นชื่อว่าเคยเป็นลูกศิษย์ของแกมาก่อน...

 สุดท้ายนี้ผมขอยืนยันว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นจริงกับตัวผม และอ๋อยมือกลองวงเพื่อนครับ...











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น