วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555

อาถรรพณ์ต่างๆ



                           ...อาถรรพณ์เกี่ยวกับสถานที่...

...วาระสุดท้ายของบังทอง...

...ในสามก๊กฉบับเจ้าพระยาพระคลัง[หน]ได้เล่าไว้ว่า...

"ครั้นเมื่อบังทองมาถึงซอกเขา...เห็นทางนั้นแคบคับขันนัก...แล้วมีต้นไม้ชัฎทั้งสองข้างรกชิดไป...ก็คิด
กริ่งใจชักม้าหยุดอยู่ จึงถามว่า...ตำบลนี้ชื่อใด...ทหารชาวเมืองเสฉวนซึ่งเข้าเกลี้ยกล่อมอยู่ด้วยจึงบอกว่า...ที่นี่ชื่อลกห้องโห...

บังทองได้ฟังจึงคิดว่า...ตัวเราอาจารย์แต่งนามไว้ให้ชื่อว่า ฮองซู แลทางจะออกจากซอกเขานี้เป็นท้องทุ่ง...ธรรมดาว่าหงษ์นั้นแม้จะตกทุ่งก็มิอาจบินไปได้...ตัวเราก็ได้ชื่อว่านามหงส์จะตกลงท้องทุ่งนี้ก็จะมีอันตราย...คิดสะดุ้งใจ...ดังนั้นแล้วก็ให้ทหารถอยคืนออกมา...พอทหารเตียวหยิมจุดประทัดขึ้นโห่ร้อง...
ยิงเกาทัณฑ์กระหนาบระดมมาทั้งสองข้างทาง...ก็ถูกบังทองตกม้าลงถึงแก่ความตาย...ทหารทั้งปวงต่างคนก็ตื่นแตกเป็นอลหม่านไปสิ้น...แลขณะนั้นบังทองถึงแก่ความตายนั้นอายุได้ ๓๖ ปี..."

...บ้านเกิดของเล่าปี่...

...ในสามก๊กเล่าถึงอาถรรพณ์ที่บ้านเกิดของเล่าปี่ว่า...

"แลเล่าปี่นั้นเป็นบุตรเล่าเหง...เล่าเหงนั้นเป็นเชื้อพระวงศ์ของพระเจ้าฮั่นเก็งเต้...เล่าเหงตาย...ยังแต่ภรรยา...เล่าปี่ผู้บุตรมีกตัญญูรักษามารดามิให้อาทร...แลเล่าปี่กับมารดาเป็นคนเข็ญใจ...ไร้ทรัพย์...ทอเสื่อขายเลี้ยงชีวิต...บ้านที่เล่าปี่อยู่นั้นชื่อบ้าน...เล่าซองฉุน...อยู่ใกล้เมืองตุ้นก้วน...เรือนนั้น...อยู่ริมต้นหม่อน...หม่อนนั้นสูงประมาณแปดวาเศษ...กิ่งนั้นเป็นพุ่มดังฉัตร...มีหมอดูคนหนึ่งเดินมาเห็นภูมิบ้านแล
ต้นหม่อนต้องตำรา...จึงทายว่าบ้านนี้ผู้มีบุญอยู่...เล่าปี่เมื่อยังเด็กอยู่นั้นเล่นกับลูกชาวบ้านทั้งปวง เล่าปี่
จึงกล่าวว่า...ถ้ากูได้เป็นเจ้า...กูจะเอาต้นหม่อนต้นนี้ไปทำคันเศวตฉัตรกั้น...เล่าอ้วนกีผู้เป็นอาได้ยิน...
เล่าปี่ว่าประหลาด...จึงชมเล่าปี่ว่าจะมีบุญเป็นมั่นคง...

...คลองเสือตาย...

...เสือจำเรียง ปางมณี...ซึ่งมีชื่อว่าขุนโจรห้านัด...มีคาถาอาคมขลัง...สามารถหลบหนีจากวงล้อมตำรวจ
ไปได้ทุกครั้ง...ครั้งสุดท้ายไปจนมุมตำรวจที่อำเภอบางพลี...จังหวัดสมุทรปราการที่...คลองเสือตาย...
เพราะเนื่องจากชื่อเป็นอาถรรพณ์...จึงทำให้เสือจำเรียงต้องจบชีวิตลงที่นั่น...

...ในเรื่องแรก...ข้อสังเกตุกล่าวคือเรื่องชื่อเสียงก็ต้องควรเอามาเกี่ยวข้อง...บังทองนำทหารผ่าหุบเขา
ชื่อตำบลว่า"หงษ์ตาย" ก็เลยจบชีวิตอยู่ตรงจุดนั้นทั้งกองทัพ...เป็นเพราะไม่ได้ศึกษาชื่อของภูมิประเทศ
มาก่อน...จึงได้พลาดพลั้งเสียชีวิตไป...

...ในเรื่องที่สอง...ข้อสังเกตุ...ซินแสหรือผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์...ฮวงจุ๊ย...มีความรู้ทางสิ่งแวดล้อม 
เห็นภูเขาเป็นรูปมังกร...รูปหงษ์...รูปเต่าฯลฯก็สามารถทายทักได้ว่า...บ้านที่อยู่ในอาณาบริเวณนี้...
จะประสพกับความรุ่งเรืองต่อไป...เช่นเมื่อผ่านบ้านของเล่าปี่สมัยที่ยังเยาว์วัย...เห็นต้นหม่อนเป็นรูป
ฉัตรอยู่หน้าบ้าน...ก็ทายว่าเจ้าของบ้านหลังนี้...จะมีอำนาจวาสนาต่อไปในภายภาคหน้า...

...ในเรื่องที่สาม...เพราะไม่ได้เรียนรู้เรื่องชื่อสถานที่...เสือจำเรียง ขุนโจรห้านัด ซึ่งเคยยิงตำรวจตายมา ๕ นาย...ซอกซอนหลบหนีตำรวจไปได้อย่างปาฏิหาริย์ทุกครั้ง...ที่สุดก็ต้องไปจบชีวิตที่บางพลี...ตรง
คลอง...เสือตาย...ด้วยฝีมือนายตำรวจบ้านนอกที่ไม่รู้กิตติศัพท์ขุนโจรรายนี้มาก่อน...เสือจำเรียงจึงต้อง
จบชีวิตลงในชื่อตำบลที่เป็นอัปมงคลแก่ตน...

วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555

วิธีการจัดตั้งพระบูชา



      ...การจัดตั้งโต๊ะหมู่บูชาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง...เพราะจะต้องรู้ทิศหลักที่...พระบูชาที่ห้องพระ หรือหิ้งบูชา...ควรที่จะต้องหันหน้าออกไปทางทิศใดถึงจะเป็นมงคลทิศ...ตามโบราณท่านว่า...ควรหันหน้า
ไปในทางทิศตะวันออกและ...ทิศใต้เท่านั้น...หลักข้อรองลงมาคือ...ห้องพระควรหันไปทางหน้าบ้าน...
และไม่ควรอยู่ห้องทางปลายเท้า...หรือตั้งโต๊ะหมู่บูชาอยู่ในห้องนอน...การจัดพระบูชาขั้นปฐมก็คือต้อง
ตั้งพระพุทธเจ้าและพระสารีริกธาตุ...อยู่ในตำแหน่งสูงสุดของโต๊ะหมู่บูชา...

     ...ถ้าเป็นบ้าน ๒ ชั้น...ควรจัดห้องพระอยู่ชั้น ๒ ของบ้าน...เพราะพระเป็นของสูง...และเป็นที่สักการะ
บูชา...ต้องอยู่ในที่สูงและเป็นมุมสงบ...ของบ้าน...เกิดเป็นตึกมีหลายชั้น...ก็ใช้หลักการเดิมคือต้องจัดตั้งพระบูชาอยู่ชั้นบนสุดเสมอเช่นกัน...ในกรณีที่เป็นคอนโดหรือตึกแถว...ก็ให้จัดตามทิศที่ถูกต้อง...ดังกล่าวไว้แล้วในเบื้องต้น...คือทิศตะวันออกและทิศใต้...อย่าจัดพระบูชาอยู่ตรงปลายเท้าเรา...เพราะถือ
ว่าเป็นการลบหลู่เบื้องสูง...

     ...ตามหลักของธาตุ...หยินคือน้ำ...หยางคือไฟ...ควรจัดพระบูชาให้เป็นลักษณะแยกธาตุคือ...หยินธาตุน้ำ...อยู่ด้านซ้ายของพระพุทธรูปบนโต๊ะหมู่บูชา...หยางเป็นธาตุไฟ...อยู่ด้านขวาของพระพุทธรูปบนโต๊ะหมู่บูชาเช่น...พระสารีบุตรจัดให้อยู่ทางขวามือพระพุทธรูป...พระโมคคัลลานจัดให้อยู่ทางซ้าย...
พระอิศวรเป็นหยาง...ธาตุไฟให้อยู่ขวามืิพระพุทธรูป...พระนารายณ์เป็นหยิน...ธาตุน้ำให้อยู่ด้านซ้ายมือพระพุทธรูป...พระพิฆเณศกับพระมหากัจจายะนะเป็นหยาง...ธาตุไฟให้อยู่ด้านขวามือพระพุทธรูป...
ส่วนพระสิวลีเป็นหยิน...ธาตุน้ำให้อยู่ด้านซ้ายของพระพุทธรูป เป็นต้น...

     ...ส่วนพระบูชาที่เป็นหลวงพ่อให้จัดตามนี้คือ...สมเด็จพระพุฒาจารย์"โต" วัดระฆัง และหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ...เป็นธาตุหยิน...ให้จัดไว้ด้านซ้าย...เพราะสมเด็จโต ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิต...มักท่านมักเดินทางอยู่เสมอ...ฝ่ายทางหลวงพ่อสด...ชื่อวัดที่ท่านอยู่ก็เป็นธาตุน้ำอยู่เช่นกัน...

     ...ตอนนี้มาทางหลวงพ่อโอภาสี เป็นผู้ที่เก่งกล้าทาง...กสิณไฟ...เป็นธาตุหยาง...ควรจัดท่านอยู่ไว้ด้านขวาของพระพุทธรูป...แม้แต่น้ำที่จะถวายบูชาพระก็ควรต้องจัดไว้ด้านซ้าย...ธูป เทียนก็ต้องไว้ด้านขวาด้วย...ดังนี้เป็นต้น...

     ...สรุปผลในโดยรวมว่า...การจัดพระพุทธรูปหรือ...พระบูชาฯลฯ...ใ้ห้ถูกทิศและถูกต้องเหมาะสมแล้ว...จะทำให้เกิดศิริมงคล โชคลาภ รุ่งเรือง ผาสุก...กับผู้ที่ได้ปฎิบัติตามขั้นตอนที่ได้บรรยายไป...
จนหมดสิ้นกระบวนความตามนี้...แล...

วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555

อะไรเป็น ฮก ลก ซิ่ว



     ฮก ลก ซิ่ว เป็นสัญญลักษณ์แทนเทพเจ้า...หรือหมายถึงเซียนทั้ง 3 ของจีน...ในกล่ม...
โป๊ยเซียนหรือที่นิยมเรียกกันว่า...เซียนทั้ง 8...ถือว่าเป็น สุดยอดมงคลแห่งการอวยพร...
...ฮก มีความหมายถึง...อำนาจวาสนา เกียรติยศ ความสุขสมบูรณ์ ตวามสุขสมหวังดั่งใจปรารถนา
...ลก มีความหมายถึง...โชคลาภ ความมั่งคั่ง โภคทรัพย์ ความอุดมสมบูรณ์ในทรัพย์สิน
...ซิ่ว มีความหมายถึง...สุขภาพ พลานามัน ความอายุยืน ความแข็งแรง ไร้โรคา พยาธิ...
...มีคำจำกัดความดังนี้...
                                             
                                       อะไร เป็น ฮก ลก ซิ่ว

                                   ฮก        เป็น          วาสนา
                                   ลก        เป็น          ความบริบูรณ์ด้วย โภคทรัพย์ และบริวาร สมบัติ
                                   ซิ่ว        เป็น          ความยั่งยืน

                                     เทียบด้วยพระเป็นเจ้าทั้งสาม

                                   ฮก        เป็น          พระนารายณ์
                                   ลก        เป็น          พระอิศวร
                                   ซิ่ว        เป็น          พระพรหม

                                                โดยรูปสัตว์

                                   ฮก        เป็น          ค้างคาว
                                   ลก        เป็น          กวางดาว
                                   ซิ่ว        เป็น          นกดำ [ กา ]

                                         เครื่องประดับท้องฟ้า

                                    ฮก       เป็น          พระอาทิตย์
                                    ลก       เป็น          พระจันทร์
                                    ซิ่ว       เป็น           ดาว

                                    โดยพฤษชาติ และบุปผชาติ

                                    ฮก       เป็น           ดอกพุดตาล หรือโบตั๋น
                                    ลก       เป็น           ดอกเบ็ญจมาศ
                                    ซิ่ว       เป็น           ต้นสน

                                                  แบบไทย

                                    ฮก       เป็น           ดอกกุหลาบ  เป็นฮก
                                    ลก       เป็น           ดอกบานชื่น  เป็นลก
                                    ซิ่ว       เป็น           ดอกบานไม่รู้โรย  เป็นซิ่ว

                                   จัดโต๊ะให้เป็น ฮก ลก ซิ่ว

                                    ฮก       เป็น           ชามใบหนึ่ง  บรรจุ  ผลส้มมือ
                                    ลก       เป็น           ชามใบหนึ่ง  บรรจุ  น้ำ
                                    ซิ่ว       เป็น           ขวดใบหนึ่ง    ปัก    ไม้สน

                       ...ทั้งหมดนี้เป็นลักษณะและความหมายหลักของ...ฮก ลก ซิ่ว...

                        ...เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ...ในโชคลาภ...และความสมบูรณ์...

                                        ...3 เซียนจาก..กลุ่มของ 8 เซียน...