วันเสาร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2557

รำลึกถึงคุณลุงขุนพันธรักษ์ราชเดช





                                                     ... ขุนพันธรักษ์ราชเดช ...



... เมื่อตอนผมยังเยาว์วัย ราวๆในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ เศษ  คุณลุงขุนพัน ฯ ซึ่งเป็นนาย
ตำรวจรุ่นพี่ของบิดาผม ได้มาเยี่ยมเยียนที่บ้าน [ ซอยกลาง ]  ในวันนั้นพอใกล้จะ
โพล้เพล้  คุณพ่อก็พาคุณลุงขุนพัน ฯ ... เดินอ้อมไปทางหลังบ้าน คือเรือนคนใช้ ...
ตัวผมเองก็ยังนั่งเล่นอยู่ในละแวกใกล้เคียงกันนั่น  สักพักใหญ่ผมก็ได้ยินเสียงร้อง
โหยหวนชวนให้ขนลุก ดังขึ้นมา ผมจึงวิ่งเข้าไปดูในที่เกิดเหตุ เห็นภาพคุณลุงขุนพัน 
กำลังยืนบริกรรมคาถา พร้อมกับซัดข้าวสารเสก อยู่พัลวัน คุณพ่อหันมาเห็นผมเข้า
ท่านก็บอกว่า" เด็กๆ ออกไปก่อนอย่ามาซนที่นี่ " 

... ป้าหริ คนรับใช้เก่าแก่ยืนอยู่ตรงนั้นรีบคว้าตัวผมออกมาทันที ระหว่างเดินออกมา
ผมก็ถามป้าหริว่า " มันเรื่องอะไรกันล่ะป้า "
ป้าหริก็ตอบมาว่า " ตรงหลังบ้านมีเด็กๆเห็นผีกันบ่อยๆ พอดีท่านขุนพัน ฯ   มา ...
คุณท่านก็เลยให้มาช่วยซัดข้าวสารเสกไล่ผีไปนะซีค่ะ คุณเอ็กซ์ "
ผมในตอนนั้นก็พอเข้าใจเรื่องราวได้พอสมควร [ โดยเฉพาะเรื่องผีๆ ] ...






...พอเสร็จจากเรื่องราวที่หลังบ้าน คุณพ่อก็พาคุณลุงขุนพัน ฯ  ไปที่ห้องพระ ...
คราวนี้ผมตามไปดูด้วยได้  ที่ห้องพระ มีรูปปั้นรัชกาลที่ ๑ เหมือนกับที่สะพานพุทธ
ไม่ผิดเพี๊ยน เรื่องของเรื่องก็คือ เมื่อสมัยที่คุณพ่อยังเป็นนายร้อยอยู่ มีคนเค๊าเอารูป
ปั้นนี้มาให้  เขาบอกว่าทำเพียงแค่ ๒ องค์ แต่แบ่งมาให้คุณพ่อ ๑ องค์ และก็มีเรื่อง
ประจวบเหมาะกล่าวคือ ก่อนที่คนจะเอารูปปั้นมาให้ คุณแม่ผมท่านฝันว่า ...



...ในฝันท่านเิดินอยู่ที่สะพานพุทธหน้ารูปปั้นรัชกาลที่ ๑ ทันใดนั้น รูปปั้นก็ตรัสออก

มาว่า " เอาลูกอมเราไปเลี้ยง แต่ห้ามไปบอกใครในเรื่องนี้เด็ดขาด " ...กล่าวเสร็จ
ก็เอาพระหัตถ์ล้วงเข้าไปในพระโอษฐ์ แล้วส่งลูกอมมาให้คุณแม่ ซึ่งในฝันคุณแม่
ก็ตกใจแต่ก็รับลูกอมไว้ ...หลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีคนเอารูปปั้นรัชกาลที่ ๑ มาให้ถึง
ที่บ้าน และก็อีกไม่นานนักคุณแม่ก็ตั้งครรภ์ [ บุตรคนที่ ๓ ชื่อพี่อู๊ด ] อ้าวลืมบอกไป
ว่า ในฝันรัชกาลที่ ๑ ท่านห้ามบอกใคร แต่ความเป็นจริงคุณแม่บอกคุณพ่อเป็น
คนแรก และบอกทุกคนที่ท่านสนิทสนม ? ...







...พอพี่อู๊ดโตขึ้นมาก็ฝันอยู่บ่อยๆว่ามีคนตัวดำๆ ๒ คนมาพาตัวเหาะไปเที่ยวค่าย

ทหาร อยู่บ่อยครั้ง ...คราวนี้เรากลับกันมาที่คุณลุงขุนพัน ฯ   มาที่ห้องพระ ...
คุณพ่อก็พูดกับคุณลุงว่า " พี่พันธ ลองไปเข้าเฝ้า ร.๑ ทูลถามท่านว่าขาดเหลืออัน
ใดบ้างหรือไม่? " คุณลุงรับคำแล้วก็ หลับตานั่งทำสมาธิ อยู่ต่อหน้ารูปปั้นรัชกาล
ที่ ๑ ... สักครู่ใหญ่ท่านก็ลืมตาแล้วกล่าวว่า ...


" เมื่อกี้ผมเข้าไปเฝ้าท่านก็เจอองครักษ์ตัวดำๆ ๒ คนมาขวางจะไม่ให้เข้าเฝ้า ...
แต่เมื่อผมส่งกระแสจิตไปยัง ร.๑ ๒ คนนั่นถึงยอมให้เข้าเฝ้า " ...
ระหว่างเข้าเฝ้าคุณลุงบอกว่า รัชกาลที่ ๑ ได้ตำหนิว่าให้ลูกอมคุณแม่ผมไว้ให้
ช่วยดูแล แต่ห้ามไปบอกใคร แต่คุณแม่ก็ละเมิดสัญญาที่ให้ไว้ บอกคนไปทั่ว ...
เพราะฉะนั้นต่อไปคงต้องเกิดเภทภัยขึ้นแน่ๆ ...


...สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันก็คือพี่อู๊ด [ พี่ชายคนที่ ๓ ] พี่ชายผมคนนี้มีพฤติกรรมที่

ไม่ค่อยปกตินัก ตอนเด็กๆก็น่ารักดีอยู่ แต่พอโตๆขึ้นมาก็กลายพันธ์เลี้ยงยากขึ้น
โดนสุนัขขบกัดบ้าง ผลาญเงินผลาญทอง ได้เมียขี้โกง เดือดร้อนกันไปหมด ...
แถมจิตใจคับแคบอีกต่างหาก คุณแม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจกับพี่ชายผมคนนี้ไม่
สิ้นสุด จนถึงในปัจจุบัน ...นับว่าเป็นอาเพศ สมดังที่รัชกาลที่ ๑ ท่านได้ตรัสไว้ ...
เรื่องราวที่กล่าวมานี้เป็นความจริงทั้งสิ้นมิได้แต่งเติมหรือให้ร้ายป้ายสีพี่ชายผม
แต่ประการใด ...ขออโหสิกรรมมาในที่นี้ด้วยครับ ...


...สรุปรวมคุณลุงขุนพันฯ มาเยี่ยมเยียนที่บ้านอยู่บ่อยครั้งที่ท่านต้องมากรุงเทพฯ 

ทุกครั้งที่เจอท่านๆก็จะทักทายผมเสมอว่า " หลานชาย เริ่มเป็นหนุ่มแล้ว " ...
ผมยังได้ที่คุณพ่อเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนคุณลุงขุนพัน ฯ เวลาจะไปไปตัดเหล็กไหล
ทีไรมักชวนคุณพ่อไปด้วยอยู่บ่อยครั้ง แต่เนื่องจากไม่สะดวกเพราะถ้าจะไปกับ
คุณลุงขุนพัน ฯ ต้องใช้เวลาเดินทางอยู่หลายวันจึงจะเสร็จสิ้นภาระ ...





...สุดท้ายนี้ในใจของผมยังระลึกถึงคุณลุงขุนพัน ฯ อยู่เสมอมา ...อย่างไม่เสื่อมคลาย
ขอให้ดวงวิญญาณของคุณลุงขุนพัน ฯ จงบรรลุถึงเป้าหมายอันสูงสุดคือ " นิพพาน "
อย่างแน่แท้ ...สาธุ ...