วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

คลายเครียด

คนเราทุกวันนี้ ในแต่ละวันมีปัญหาให้ขบคิดทำให้เกิดความกังวล ทำให้เกิดความเครียดขึ้นมา ดังนั้นเรามาผ่อนคลายความเครียดกันดีกว่าครับ...เข้าตำรา"หัวเราะวันละนิดจิตแจ่มใส" งั้น...เรามาร่วมวงกันอ่าน
เรื่องคลายเครียดกันซัก ๙เรื่องก่อนได้เลยนะครับ...


                                                             เรื่องที่๑ "กลัวความลับแตก"


"ตายแน่ชั้นคราวนี้"คุณกระเซิงตะโกนบอกเพื่อนที่ทำงานในเช้าวันหนึ่ง"ชั้นลืมกระเป๋าตังค์เอาไว้ใต้หมอน"
"อ้าว!ก็คนใช้ไว้ใจได้ไม่ใช่เหรอ?"เพื่อนร่วมงานถาม
"ก็ใช่อยู่" คุณกระเซิงรับคำ แต่สีหน้าดูปั้นยากกล่าวตอบมาว่า"แต่ชั้นกลัวเค๊าจะเอาไปส่งให้เมียชั้นน่ะซิ"


                                                             เรื่องที่๒ "อดใจไม่ได้เพื่อน"


นิดหน่อย"หมู่นี้แกเป็นอะไรดูซุบเซียวจังเพื่อน?"
จุ๋มจิ๋ม"หมอสั่งให้เมียเราลดความอ้วนว่ะ! ก็เลยเป็นแบบที่เห็นนี้แหละ...!"


                                                             เรื่องที่๓ "นี่ละมนุษย์"


         นายเบิ้มปรับทุกข์กับอ่วมเพื่อนบ้าน
เบิ้ม"คนเรานี่ก็แปลกน๊อ?"
อ่วม"แปลกยังไงล่ะ"
เบิ้ม"ถ้าเราบอกเขาว่าโลกเรากลม หรือบอกว่าบนท้องฟ้ามีดวงดาวมากมายจนนับไม่ถ้วน เขาจะเชื่อแต่นี่ที่หน้าบ้าน อุตส่าห์เขียนป้ายไว้ว่า "ที่หมาเยี่ยว"ไม่ยักมีใครเชื่อแฮะ!


                                                            เรื่องที่๔ "หลอกให้ดีใจ"


อ้อม"ทุกครั้งที่เห็นหน้าเธอ เดี้ยนมักจะนึกถึงตัวเอกในหนังอยู่เสมอ"
อู๊ด"ฮั่นแน่...อย่ามาพูดให้เค๊าดีใจน่า...นึกถึงใครในหนังเหรอ? "
อ้อม" แฟรง เกนสไตน์ย่ะ..."


                                                            เรื่องที่๕ "ตามประสาเด็ก"


ลูก"แม่จ๋า"! ดูลุงคนนั้นซิ...หัวเหม่งน่ะแม่...ไม่มีผมซักกะเส้นเดียวเลย"
แม่" ชุ๊ๆๆ...อย่าพูดดังไปลูก...เดี๋ยวเขาก็รู้หรอก"
ลูก"อะไรกันแม่จ๋า...หัวล้านเหน่งขนาดนี้ ลุงเขายังไม่รู้ตัวอีกหรือนี่? "


                                                            เรื่องที่๖ "ก็ถูกของเขา"
คุณครูถาม"ลมพายุคืออะไรจ๊ะ?"
ศิษย์ตอบ"คืออากาศที่เคลื่อนที่อย่างฉุนเฉียวและรุนแรงครับ...คุณครู"


                                                           เรื่องที่๗"พูดเรื่องจริงนะนี่!"


คุณครูกำลังอธิบายให้นักเรียนชั้นป.๑ รู้ถึงประโยชน์ของโทรศัพท์ จากนั้นก็ได้ตั้งคำถามกับด.ช.ซื่อสัตย์ว่า" ถ้าโทรศัพท์ที่บ้านเธอดังข้นในตอนดึกนั่นหมายความว่าอย่างไร? "
"หมายความว่าค่าโทรศัพท์ที่ค้างอยู่ 2 เดือน..." ด.ช. ซื่อสัตย์ตอบเสียงดังฟังชัดว่า"พ่อผมได้นำเงินไป
จ่ายเรียบร้อยแล้วครับ"


                                                           เรื่องที่๘"คำราชาศัพย์"


   มีเรื่องเล่าว่า มีเจ้านายในวังท่านหนึ่ง ชอบออกมาเดินชมตลาด เวลามาทีไร ก็จะมีข้าราชบริพารตามเสด็จมาด้วยหลายคน เวลาเดินเข้ามาในตลาด พวกพ่อค้าแม่ค้าก็จะเกิดอาการสำรวม และอึดอัดใจว่า
ถ้ามาซื้อของที่ร้านตัวเองแล้วจะพูดคำราชาศัพย์อย่างไรดี ทุกคนเกิดอาการเกร็งกันไปหมด ขณะที่เจ้านายท่านนี้เดินชมของขายไปเรื่อยๆ ก็หยุดที่ร้านขายกบ { กบที่อยู่ในกาละมังที่กระโดดได้น่ะ }เจ้านาย
ท่านก็ถามแม่ค้าว่า"กบนี่ขายยังไงหรือ?"แม่ค้าก็อาจหาญพนมมือ รีบตอบและชี้นิ้วไปที่กาละมังแล้วกล่าวว่า"พวกตัวที่เสด็จไป เสด็จมา นี่กิโลละ๘๐บาทเพคะ"
หยุดคิด...แล้วตอบไปอีกว่า"แล้วก้อพวกตัวที่สวรรคตแล้วนี่ กิโลละ ๕๐ บาท...เพคะ" {ฮากลิ้งเลย}


                                                        เรื่องที่๙"ลุงแก่แล้ว"


หนุ่มน้อยวัยแตกพานนายหนึ่งเอ่ยขึ้นกับเฒ่าวัยตะบันน้ำว่า"เออ...ลุงยังจำผู้หญิงคนแรกที่ลุงเคยอึ๊บได้
อยู่รื๊อเปล่า?"
"ไอ้หนูเอ๊ยยย" อดีตหนุ่มน้อยเมื่อ๖๐ปีก่อนกล่าวยานคางว่า"อย่าว่าแต่คนแรกเล้ย ขนาดคนสุดท้ายลุง
ยังนึกไม่ออกด้วยซ้ำ!"
                                               แค่นี้ก่อนนะครับโอกาศหน้าค่อยมาคลายเครียดกันใหม่!..สวัสดีครับ
ที่จัดให้๙เรื่อง เป็นไปตามสูตรมงคลแล.....
                                                           



















วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

วิธีการแก้เคราะห์ด้วยตนเอง

            วิธีการแก้เคราะห์มีอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ควรใช้วิธีสะเดาะเคราะห์ต่างๆวิธีการแก้เคราะห์แบบง่ายๆซึ่งมีมาแต่โบราณ และในปัจจุบันก็ยังคงใช้ได้ผลอยู่เช่นกันมีดังนี้

๑.ไปตักบาตรพระและรดน้ำมนต์ ๒.ย้ายที่หลับที่นอน ๓.เดินทาง ๔.ย้ายกระดูกบรรพบุรุษ ๕.ปล่อยนกและปล่อยปลา ๖.จัดของใหม่ในห้อง ๗. ปัดกวาดบ้านและเอาซากแมลงไปเผา ๘. ไปทำบังสกุลเป็น บังสกุลตาย  ๙.บริจาคเงินซื้อโลงศพ ๑๐.ทำบุญทำทานต่างๆ ๑๑.บริจาคเงินให้โรงพยาบาล,คนป่วย ๑๒.ทำบุญเลี้ยงพระและเลี้ยงคนยากจน ๑๓.ซื้อสัตว์ที่เขาจะนำไปฆ่าปล่อยให้เป็นอิสระ  ๑๔.แจกเสื้อผ้าแก่คนยากไร้
๑๕.เก็บของเก่า,ขยะหรือของที่ชำรุดแตกหัก ไปทิ้้งเสีย ๑๖.เผากระดาษ  ๑๗.อยู่คนเดียวเงียบๆ ๑๘.บริจาคร่างกายเมื่อตาย ๑๙.บริจาคโลหิต ๒๐.เลี้ยงนก เลี้ยงปลา เลี้ยงช้าง ซื้ออาหารเลี้ยงสัตว์ ๒๑.จุดไฟให้แสงสว่างแก่ชาวบ้าน ๒๒.ตั้งโอ่งน้ำให้คนผ่านทาง ๒๓.เลี้ยงคนชรา ๒๔.เวลากินอาหารเลี้ยงผีบ้านผีเรือน เรียกมากินด้วย ๒๕.จัดปากกา ดินสอบนโต๊ะให้มีระเบียบอย่าให้ขัดกัน หรือไขว้กัน ๒๖.อย่าผิวปากภายในบ้าน ๒๗.ก่อนนอนสวดมนต์แผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้บิดา มารดา ครูบาอาจารย์ให้พ้นทุกข์


๒๘.ฝึกนั่่่งสมาธิทำจิตให้สงบ  ๒๙.เช้ามาอย่ากล่าวคำหยาบ ด่ากัน หรือทะเลาะกัน

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโคตรเหล็กไหล

      โคตรเหล็กไหล เป็นเหล็กไหลที่มีวรรณะสีดำสนิท พื้นผิวละเอียด มันวาว ชอบกินน้ำผึ้งและสามารถงอกโตขึ้นเองได้ เมื่อเจอกับแม่เหล็กจะดูดไม่ติด พบได้ตามถ้ำในป่าลึก เล่าขานกันว่าโคตรเหล็กไหลเป็นเทพอยู่บนสวรรค์ที่จุติลงมาเพื่อชดใช้กรรมเก่าของตนในโลกมนุษย์ จึงมียักษ์และอมนุษย์คอยอารักขาดูแล ถ้าผู้ใดมีไว้ในครอบครองบูชาให้ดี สีของโคตรเหล็กไหลจะแปรเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีดำอมเขียว ไปจนถึงสีรุ้งเลยทีเดียว

      เหตุที่เรียกว่า"โคตรเหล็กไหล"เพราะมีลักษณะการเกิดที่พิสดาร แต่เดิมทีก็เหมือนกับก้อนหินทั่วๆไปแต่พื้นผิวกับงอกขึ้นมาเองเป็นผิวมันสีดำสนิท มีเม็ดเล็กตั้งแต่ขนาดเท่าปลายเข็ม ไข่ เม็ดถั่วลิสงและเม็ดพุทรา เกาะกันเป็นกลุ่มก้อน หนาบ้าง บางบ้าง บางแห่งเหมือนการหยดหรือไหลย้อย สามารถเคลื่อนที่ไปตามพื้นถ้ำ ผนังถ้ำและตามรอยแยกรอยแตกของส่วนต่างๆในถ้ำได้
     
      สรุปว่าโคตรเหล็กไหลเป็นสิ่งที่หาได้ยาก เพราะการเสาะแสวงหามาใว้ในครอบครองเป็นสิ่งที่
ลำบากยากเย็นอยู่มากและโคตรเหล็กไหลจะมาอยู่กับผู้มีบุญวาสนาร่วมกันเท่านั้น

วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ความหมายของพระเครื่องเนื้อชิน

    คำว่าชินแปลว่าผู้ชนะ ด้วยเหตุนี้นักไสยศาสตร์แต่โบราณจึงมักนิยมทำพระเครื่องออกศึกด้วยโลหะผสมซึ่งเรียกว่าชิน อันมีความหมายว่าผู้ชนะเป็นเคล็ดให้มีชัยชนะต่อศัตรู...
    มีผู้รู้สันนิษฐานเอาไว้ว่า ชินเป็นวัตถุธาตุที่ผสมจากโลหะต่อไปนี้คือ ตะกั่ว ดีบุก เหล็ก สังกะสีปรอทและเงิน การแบ่งชนิดของชินท่านแบ่งออกเป็น 3 ชนิดคือ 1.ชินวร 2.สังฆวานร 3.อุทุมพร


   
 ชินวรนั้นเนื้อแข็ง สนิมดำแกร่งมาก สังฆวานร เป็นชินกรอบเหมือนข้าวเกรียบ สีเนื้อเป็นสีขาวปนน้ำเงิน ตามผิวเป็นรูพรุนขนาดปลายเข็มทั่วไป ส่วนชินอุทุมพรเป็นชินสีเขียว สนิมเป็นเม็ดๆคล้ายไข่ปลาสีขาวหม่น จัดได้ว่าเป็นชินรุ่นใหม่กว่า 2 ชนิดที่ได้กล่าวมา เมื่อสร้างเป็นพระเนื้อชินขึ้นมา จึงมีความหมายว่า
"พระผู้ชนะ"

สิ่งอัศจรรย์เกี่ยวกับตัวเลข

       ลิงคอลน์ กับ เคนเนดี้ 2 ประธานาธิบดีของประเทศสหรัฐอเมริกานี้ มีอะไรที่คล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก...

ลิงคอลน์รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ค.ศ.๑๘๖๐ ส่วนเคนเนดี้ได้รับการเลือกตั้งในปี๑๙๖๐ ห่างกันเป็นเวลา ๑๐๐ ปีพอดีทั้งสองท่านนี้มีกรณีกิจที่สำคัญ คือการให้สิทธิผิวดำด้วยกันทั้งคู่ และต่างก็ถูกยิงตาย ในวันศุกร์ที่ศีรษะด้านหลัง โดยมีภริยานั่งอยู่ข้างๆ เช่นเดียวกัน ทั้ง2ท่านต่างก็สูญเสียบุตรชายไปในระหว่างที่พำนักอยู่ในทำเนียบขาว
     
      ลิงคอลน์ถูกยิงตายในโรงละครฟอร์ดชองเฮนรี่ฟอร์ด ส่วนเคนเนดี้ถูกยิงมรณกรรมในรถฟอร์ด
ลิงคอล์น อันพลิกโดยรถยนต์ของเฮ็นรี่ฟอร์ดเหมือนกัน

       ผู้ที่เป็นประธานาธิบดีสืบต่อจากทั้ง 2ท่าน เป็นรองประธานาธิบดีที่มีนามว่าจอห์นสันเหมือนกัน จอห์นสันทั้งสองเป็นคนภาคใต้และเป็นวุฒิสมาชิกมาก่อน แอนดรู จอห์นสันเกิดในปี ๑๘๐๘ ส่วนลินคอน จอห์นสัน เกิดปี ๑๙๐๘ ห่างกัน ๑๐๐ ปีพอดี เลขานุการของลิงคอล์น ชื่อแรกว่า "จอห์น"ส่วนเลขานุการของเคนเนดี้ชื่อ"ลิงคอล์น"

       คนร้ายที่ยิงประธานาธิบดีลิงคอล์นชื่อ จอห์น วิลเคส บู้ช { John Wilkes Booth นับอักษรได้ ๑๕ตัว}
เกิดปี๑๘๓๙ ส่วนผู้สังหารเคนเนดี้ชื่อ ลี ฮา์ร์วีย์ ออลวอลด์ {นับอักษรได้ ๑๕ ตัว}เกิดปี ๑๙๓๙ ปีเกิดของคนทั้ง2 ห่างกันเป็นเวลา ๑๐๐ปีพอดี และต่างก็ถูกสังหารเสียชีวิตก่อนศาลตัดสินโทษ และต่างก็เป็นคนภาคใต้ด้วยกันทั้งคู่

       ผู้ที่ยิงลิงคอล์น ยิงในโรงละคร แล้วหนีไปซ่อนในที่เก็บของคือ ยุ้งข้าว ส่วนคนที่ยิงเคนเนดี้ ยิงจากที่เก็บของแล้วหนีไปจนมุมในโรงภาพยนตร์

       ลิงคอล์น กับ เคนเนดี้ สะกดด้วยอักษรโรมัน ๗ ตัว ส่วนผู้สืบต่อตือ แอนดรู จอห์นสันกับ ลินคอน จอห์นสัน นามประกอบด้วยอักษรโรมัน ๑๓ตัวเหมือนกัน และดังที่ได้กล่าวไว้แล้วว่า จอห์น วิลเคส บู้ช
ผู้ยิงลิงคอลน์ กับ ฮาร์วี่ย์ ออสวอลด์ สะกดด้วยอักษรโรมัน ๑๕ ตัวเท่ากัน เป็นทีน่ามหัศจรรย์ยิ่งนัก...

     
                  สิ่งมหัศจรรย์ของท่านประธานาธิบดีทั้ง2 ยังมีอีกเรื่องกล่าวคือ ขณะที่ทั้งสองถูกฆ่าตาย
บุตรคนโตของทั้ง2ท่านกำลังพักอยู่ในโรงแรมที่ชื่อเหมิอนกันในกรุงวอชิงตันเหมือนกันอีก...


วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

นิมิตรการเกิดของ ล.พ.เงิน วัดดอนยายหอม

       บิดาของหลวงพ่อเงินแห่งวัดดอนยายหอม มีนามว่า"พ่อพรหม"มารดาชื่อ"แม่กรอง"ในคืนวันหนึ่งแม่กรองได้ฝันว่ามีพญานาคตัวใหญ่ได้เลื้อยเข้ามาอยู่ตรงหน้า แล้วพูดกับนางว่า"มาขออาศัยอยู่ด้วยจ๊ะ"ครั้นเมื่อแม่กรองตื่นขึ้นมาจึงได้เล่าความฝันให้พ่อพรหมฟัง พ่อพรหมซึ่งเป็นนักไสยศาสตร์ผู้เชี่ยวขาญในทางอาคม ได้พิจารณาแล้วบอกกับแม่กรองว่า" ลูกของเราคนที่๔นี้จะเป็นชาย และจะมีบุญบารมีมาก" ดังนั้นเมื่อถึงวันอังคาร ขึ้น ๓ค่ำ เดือน ๑๐ปีขาล เป็นกระทิงวัน แม่กรองก็ได้คลอดบุตรชายออกมา และตั้งชื่อว่า"เงิน"

        ผมมีคาถาอยู่บทหนึ่งซึ่งเป็นของหลวงพ่อเงิน คาถาบทนี้ท่านใช้อยู่เป็นประจำในระหว่างเดินท่องธุดงค์ เมื่อระยะแรกที่ท่านเป็นพระนวกะ {พระใหม่}อยู่ท่านเคยเดินธุดงค์ป่าแห่งหนึ่ง ในขณะนั้นกลุ่มทหารกำลังฝึกภาคอยู่ แถวนั้นฝังระเบิดบกไว้เป็นจำนวนมาก และอยู่ในระหว่างซ้อมการรบอยู่พอดี ระหว่างทหารกำลังฝึกบทโจมตีข้าศึก ได้เห็นพระเดินอยู่ตรงจุดจู่โจม จึงสั่งระงับการจู่โจมแต่ปรากฏว่าไม่ทันการลูกกระสุนปืนวิ่งเข้าสู่เป้าราวกับห่าฝน สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับเหล่าทหารเป็นอย่างมาก หลังจากสิ้นเสียงปืนลงไป เหล่าทหารก็รีบวิ่งตรูกันไปที่เป้าจู่โจมอย่างเครียด! เพราะคิดกันว่า บาปกรรมครั้งนี้คงจะตกอยู่กับพวกตนเป็นแน่แท้ พอถึงที่เกิดเหตุ ท่ามกลางควันขโมง ในความเลือนลางเห็นพระหนุ่มยังคงเดินอย่างสำรวมต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง จนค่อยๆลับสายตาเหล่าทหารทั้งหลายไปอย่างสงบ.....
             นะโม ๓จบ.

* นะโมพุทธายะ นะมะพะธะ ติหังจะโต โลธิพรหมาเทวะตา ๑  ภาวนา ๓ จบ ...

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

     สีที่เป็นมงคลประจำวัน

  1.  วันอาทิตย์ ให้ใช้สีเขียวเป็นหลักและตามด้วยสีแดง แสด ส้ม  ส่วนอัญมณีควรใช้หยก งดใช้สีน้ำเงิน อัญมณีห้ามใช้คือไพลิน เลขมงคลคือเลข 4,5 เลขอัปมงคลคือ เลข 6
  2. วันจันทร์ ให้ใช้สีดำเป็นหลัก รองลงมาเป็นสีขาว ครีมและไข่ไก่  อัญมณีให้ใช้นิล งดใช้สีแดง แสดและสีส้ม อัญมณีห้ามใช้คือ พลอยสีส้ม,โกเมน เลขมงคลคือเลข7,4 เลขอัปมงคลคือ เลข 1
  3. วันอังคาร ให้ใช้สีเหลืองเป็นหลัก ตามด้วยสีชมพูและสีม่วงแดง อัญมณีให้ใช้บุษราคัม งดใช้สีขาว ครีม ไข่ไก่ อัญมณีห้ามใช้คือ เพชร,มุก เลขมงคลคือเลข 5,6 เลขอัปมงคลคือเลข 2
  4. วันพุธ ให้ใช้สีเขียวอ่อนเป็นหลักตามด้วยสีเขียว อัญมณีควรใช้ หยก งดใช้สีชมพู ส่วนอัญมณีที่ห้ามคือ ทับทิม,และพลอยสีม่วงแดง เลขมงคลคือเลข 8,1,2 เลขอัปมงคลคือเลข 3
  5. วันพฤหัสบดี ให้ใช้สีแดง,แสด,ส้มเป็นหลักรองลงมาเป็นสีเหลือง,น้ำตาล อัญมณีให้ใช้พลอยแดง งดใช้สีดำ อัญมณีห้ามใช้คือ นิล เลขมงคลคือเลข 1,4 เลขอัปมงคลคือเลข 7
  6. วันศุกร์ ให้ใช้สีชมพูเป็นหลักและตามด้วยสีน้ำเงิน ส่วนอัญมณีควรใช้ทับทิมชมพู งดใช้สีเขียวอ่อน อัญมณีที่ห้ามใช้คือ พลอยสีม่วง เลขมงคลคือ 3,5 เลขอัปมงคลคือ 8
  7. วันเสาร์ ให้ใช้สีน้ำเงิน รองลงมาใช้สีม่วงอ่อน อัญมณีให้ใช้ไพลิน งดใช้สีเขียว ส่วนอัญมณีห้ามใช้หยก เลขมงคลคือ 6 เลขอัปมงคลคือ4

วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

คำทำนายผู้ที่เกิดวันที่ 23 พ.ค.2555 วันพุธ

สวัสดีทุกท่านครับวันนี้ผมจะเริ่มพยากรณ์...เด็กที่เกิดในวันนี้เติบใหญ่ขึ้นมาจะเป็นคนร่าเริง รักเสียงเพลง พุดเก่ง ชอบสอนสั่งผู้อื่นอยู่เสมอ หาเงินเก่ง มักชอบท่องเที่ยวเดินทาง อยู่ไม่ติดที่ และมีโชคในการเสี่ยง
เป็นที่รักของพวกพ้องเพราะความที่เป็นคนที่เปย์ไม่อั้นกับเพื่อนฝูง และมักต้องเดือดร้อนกับมิตรสหายอยู่เป็นประจำ...


 การงานควรเป็นระบบเคลื่อนไหวกล่าวคือต้องไม่อยู่ประจำที่ ถึงจะเกิดคุณภาพที่ดี คู่ครองควรเป็นผู้สูงวัยกว่าตนเอง ถ้าอ่อนวัยกว่าจะเกิดปัญหาและเดือดร้อนในภายหลัง คู่ควรจะต้องมีฐานะหรืออยู่ในตระกูลที่ดี หรือเป็นแม่หม้ายจึงจะให้คุณ บิดาจะมีอายุขัยยืนยาวกว่ามารดา  ให้แก้เคล็ดคือ  ควรให้บิดาและมารดาพยายามแยกที่นอนกันบ้างเป็นครั้งเป็นคราว การเงินรายได้จะเป็นลักษณะเงินหมุน ซึ่งมีการเข้าออกอยู่เป็นประจำ บ้านควรจะมีซัก 3 หลัง{ตามดวงมี3หลัง}จะได้สับเปลี่ยนกัน คิอนอนหลังนี้บ้าง หลังโน้นบ้างจะให้คุณแก่ตนเอง สีชมภูเป็นสีไม่มงคลควรหลีกเลี่ยงเลข3เป็นเลขร้ายทะเบียนรถยนต์และบ้านไม่ควรมีเลข3 โรคที่ควรระวังคือโรคที่เกี่ยวกับใขสันหลังและ ภูมิแพ้ ควรแก้โดยการออกกำลังกายแบบโยคะจะทำให้มีอายุยืนยาว [คำทำนายสำหรับผู้ที่เกิดในวันพุธ]

วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

รับสอนโหราศาสตร์ฟรี



สวัสดีทุกท่านที่เข้ามาในบล๊อก Exguitarhora ที่นี่ผมรับปรึกษาปัญหาทั่วไปของบุคคลต่างๆในระบบโหราศาสตร์ไทยโบราณและยินดีสอนโหราศาสตร์แก่บุคคลที่คิดจะศึกษาโหราศาสตร์อย่างจริงใจฟรี!


และที่บล๊อกนี้ยังมีเกี่ยวกับการบันเทิง ในแวดวงศิลปินในด้านเสียงเพลง เเละสไลด์วีดีโอตัดต่อ ภาพศิลปสรุปรวมเป็นที่รับให้การปรึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตมนุษย์เราแนะแนวแก้ไขและป้องกันสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นในดวงชาตา ของแต่ละบุคคลจากวิชาโหราศาสตร์  และที่อยากสอนโหราศาสตร์แก่บุคคลทั่วไปนั้นเพราะผมคิดว่าถ้าทุกคนสามารถอ่านดวงชาตาของตนเองได้แล้วจะเกิดประโยขน์อย่างมหาศาลเพราะจะทำให้รู้ตัวล่วงหน้าว่าอนาคตอันใกล้จะเกิดเรื่องดีหรือเรื่องร้ายสำหรับตนเองและยังสามารถบอกคนใกล้ชิดตนเองให้ระวังภัยต่างๆที่จะเกิดขึ้นได้อีกด้วย แต่ก็อีก...กล่าวคือทุกคนย่อมไม่สามารถที่จะศึกษาวิชาโหราศาสตร์ได้ 100%เพราะย่อมขึ้นกับดวงชาตาของแต่ละคนว่ามี พรสวรรค์ หรือมีพรแสวง กันแค่ไหน? อีกประการหนึ่งคือวิชาโหราศาสตร์เป็นศาสตร์ซึ่งเกี่ยวข้องกับมนุษย์เราโดยตรงเกี่ยวข้องกับกาลเวลาจึงเป็นศาสตร์ที่มีความลึกซึ้งและลึกลับชวนแก่การติดตามอย่างยิ่งนักครับ...