วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555

อิทธิฤทธิ์ของตัวเลข



                                                    ... จากปูมโหรของ อ.พลูหลวง ...













...พีทาโกรัส เป็นนักคณิตศาสตร์และ นักปราชญ์ชาวกรีกโบราณ เป็นเจ้าของทฤษฎีบทพีทาโกรัส...
พีทาโกรัสได้ชื่อว่าเป็น"บิดาแห่งตัวเลข" พีทาโกรัสไม่เพียงแต่มีความสำคัญต่อคณิตศาสตร์ เขายังได้
สร้างสรรค์ความคิดอีกหลายๆอย่าง ให้กับปรัชญาและศาสนา เขาได้เคยกล่าวไว้ว่า อำนาจมหัศจรรย์
ของสากลจักรวาลนี้อุบัติขึ้นมาจากอิทธิฤทธิ์ของตัวเลขทั้งสิ้น ...

...ตามโบราณถือกันมาว่าตัวเลขมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวของมันเอง การทำตระกรุด การทำยันต์ เครื่องราง
คุ้มครองตน ล้วนแต่ต้องใช้ตัวเลขทั้งสิ้น แม้แต่ยันต์ของไทยเรา ก็นิยมใช้ตัวเลขมาทำเป็นเลขยันต์ด้วย
เช่นกัน...ทางโหราศาสตร์ไทยเรา นิยมเอาตัวเลขมาแทนนามของดาวพระเคราะห์ต่างๆดั่งนี้คือ ...

เลข ๑ เป็นตัวแทนดาวอาทิตย์
เลข ๒ เป็นตัวแทนดาวจันทร์
เลข ๓ เป็นตัวแทนดาวอังคาร
เลข ๔ เป็นตัวแทนดาวพุธ
เลข ๕ เป็นตัวแทนดาวพฤหัสบดี
เลข ๖ เป็นตัวแทนดาวศุกร์
เลข ๗ เป็นตัวแทนดาวเสาร์
เลข ๘ เป็นตัวแทนราหู
เลข ๙ เป็นตัวแทนเกตุ
เลข ๐ เป็นตัวแทนดาวมฤตยู

...โหราจารย์ท่านยังแสดงถึงนิสัยของตัวเลขดวงดาวต่างๆไว้ดังนี้ ...

๑.ยศศักดิ์ทายอาทิตย์
๒.รูปร่างจริตทายจันทร์
๓.กล้าแข็งขยันทายอังคาร
๔.เจรจาอ่อนหวานทายพุธ
๕.ปัญญาบริสุทธิ์ทายพฤหัส
๖.กิเลศสมบัติทายศุกร์
๗.โทษทุกข์ทายเสาร์
๘.มัวเมาทายราหู
๙.อายุยืนอยู่ทายเกตุ
๐.ภัยอาเพศทายมฤตยู


... และท่านยังแบ่งดวงดาวเป็น คู่มิตร คู่ศัตรู และคู่สมพล [คู่ที่มีพลัง] ... ดังนี้คือ ...

คู่มิตร...๑ กับ ๕   อาทิตย์เป็นมิตรกับครู
         ...๒ กับ ๔   จันทร์โฉมตรูพุธนงเยาว์
         ...๖ กับ ๓    ศุกร์ปากหวานอังคารรับเอา
         ...๘ กับ ๗    ราหูกับเสาร์เป็นมิตรแก่กัน

คู่ศัตรู...๑ กับ ๓    อาทิตย์ผิดอังคาร
         ...๔ กับ ๘   พุธอันธพาลวิวาทราหู
         ...๖ กับ ๗   ศุกร์กับเสาร์เป็นเสี้ยนศัตรู
         ...๒ กับ ๕   จันทร์กับครูเป็นอริแก่กัน

คู่สมพล...๑ กับ ๖
             ...๒ กับ ๘
             ...๓ กับ ๕
             ...๔ กับ ๗

... ๑ กับ ๓ เป็นคู่ศัตรูกันเมื่อเลขคู่นี้มาเรียงกันตามลำดับตัวเลขเป็นเลข ๑๓ แล้วจึงทำให้เกิดโทษอย่างมหันต์ ถือกันมาตั้งแต่ในสมัยโบราณก่อนคริสตกาลเสียอีก พวกอิยิปต์โบราณก็ถือว่าเลข ๑๓ นี้ให้โทษพอมาในสมัยจีซัสไครสต์ พระองค์มีสานุศิษย์ ๑๒ คน เมื่อมาร่วม The last supper กับศาสดา จึงรวมเป็น ๑๓ คนจึงเกิดโทษ ผลปรากฏก็คือ จีซัสถูกทหารโรมันจับไปตรึงไม้กางเขน ...

...ในสมัยต่อมาถือเลข๑๓ กันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางก็ดี การร่วมรับประทานอาหารก็ดีหรือเป็นการประชุมกันก็ดี ถ้ามีจำนวน ๑๓ คนพอดี ย่อมจะทำให้เกิดผลร้ายตามมาด้วยทุกครั้ง ยิ่งถ้าเกิดทำกิจการสำคัญในวันศุกร์ที่ ๑๓ ด้วยแล้วก็ยิ่งถือกันมาก ด้วยเหตุว่าวันนี้เป็นวันสิ้นพระขนม์ของพระจีซัส
หากใครทำอะไรในวันนี้มักจะต้องวุ่นวายกันไปทุกคน ...

...ชาวยุโรปมักจะไม่ยอมอยู่ในห้องเลข ๑๓ ด้วเหตุนี้โรงแรมใหญ่ๆในบางแห่งจึงไม่มีเลข ๑๓ คือจากเลข ๑๒ ก็ข้ามไปเลข ๑๔ เลย แม้กระทั่งการทำน๊อตของเยอรมันเป็นนัมเบอร์ เมื่อถึงเบอร์ ๑๒ ก็จะข้ามไปเบอร์ ๑๔ ด้วยเช่นกัน เพราะถือว่าน๊อตเบอร์ ๑๓ จะนำความวิบัติมาสู่เครื่องยนต์นั้นๆ ...

...กรุงศรีอยุธยาแตกทั้ง ๒ ครั้ง เมื่อเอาตัวเลข จุลศักราช มาบวกรวมกันเข้าเป็นเลข ๑๓ คือกรุงแตกครั้งแรก จ.ศ.๙๓๑ บวกได้ ๑๓ กรุงแตกครั้งสุดท้าย จ.ศ. ๑๑๒๙ บวกได้ ๑๓ เช่นกัน...ฤกษ์กำหนดเสด็จกลับไปศึกษาต่อยังต่างประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล โหรหลวงไม่เชื่อถือในเลขร้าย ได้วางฤกษ์ไว้ให้เสด็จเดินทางในวันที่ ๑๓ มิ.ย.พ.ศ.๒๔๘๙ เวลา ๑๑.๓๐ น.นอกจากวันที่จะเป็นเลข ๑๓ แล้ว เวลาฤกษ์ก็ยังมีเลข ๑ กับเลข ๓ อีกเช่นกัน...ส่วน พ.ศ. + กับเวลาฤกษ์ยังบวกได้ ๘ ...
ซึ่งเลข ๘ ก็ถือว่าเป็นเลขร้ายให้โทษด้วยเหมือนกัน เช่นกษัตริย์หรือประธานาธิบดีลำดับที่ ๘ มักเกิดโทษร้ายแรงทุกท่าน ...

...สรุปได้ตามเลขศาสตร์ว่าเลข ๑๓ เลข ๘ เป็นเลขที่มีอาถรรพ์เป็นอย่างมาก ... ควรพึงจดจำไว้ ...







... ขอบอกสั้นๆว่า " ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ " ... เลขจากดวงดาวมีอิทธิฤทธิ์ และอาถรรพ์ เป็นอย่างยิ่ง ...

... สวัสดีครับ ...

... อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม ...